ศ. 2542 – 2548 อัตราการเกิดโรคปอดอักเสบในเด็กไม่ได้ลดลง และอัตราตายในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี ก็ไม่ได้ลดลงเท่าที่ควรเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว (อัตราการป่วยของโรคปอดอักเสบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี คิดเป็นร้อยละ 6. 2 ต่อปี) นอกจากนี้ผู้ป่วยที่รอดชีวิตอาจจะประสบกับภาวะแทรกซ้อน หากมิได้แก้ไขจะทำให้มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเด็กและก่อให้เกิดความพิการขึ้นได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี มีอัตราตายสูงที่สุด
โรคปอดอักเสบเกิดจากอะไร??
โรค ปอดบวม pneumonie atypique
ดูแลรักษาตามอาการ เช่น ถ้ามีไข้สูงก็ให้เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น กินยาลดไข้ และดื่มน้ำมากๆ
2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่มีคนแออัด เพราะอาจทำให้มีการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้
3. นอนหรืออาศัยในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงแดดส่องถึง
4. เมื่อผู้ป่วยมีอาการมาก เช่น มีไข้สูง หายใจหอบจนชายโครงบุ๋ม ควรรีบนำส่งแพทย์ทันที
การดูแลผู้ป่วย
1. อาการไข้
เด็กที่ป่วยเป็นโรคปอดบวม ไม่ควรเช็ดตัวด้วยน้ำเย็น เพราะอาจทำให้อุณหภูมิภายนอกร่างกายลดลง ควรเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นแทน และให้ยาลดไข้ได้ทุก 4-6 ชั่วโมง สำหรับผู้ป่วยที่สูญเสียน้ำมาก ควรให้สารน้ำทดแทน โดยการกินหรือให้ทางหลอดเลือดดำ และต้องควบคุมปริมาณน้ำที่ให้ในแต่ละวัน เพื่อป้องกันภาวะน้ำเกิน
2. การคั่งค้างของเสมหะ
เสมหะหรือน้ำมูกที่อุดกั้นทางเดินหายใจ ให้ลดความเหนียวของเสมหะด้วยการดื่มน้ำหรือพิจารณาให้ยาละลายเสมหะ รวมถึงการสูดดมละอองไอน้ำ แต่ต้องคอยดูแลป้องกันการสาลัก ในผู้ป่วยบางรายที่พบหลอดลมเกร็งร่วมด้วยอาจพิจารณาให้ยาขยายหลอดลมชนิดพ่นหรือฉีด
3. การให้ยาขับเสมหะ
ยาขับเสมหะ เช่น แอมโมเนียมคาร์บอเนต หรือ แอมโมเนียมคลอไรด์ อาจให้แ่ก่ผู้ป่วยในรายที่ไม่สามารถขับเสมหะออกมาได้ง่าย
4.
โรคปอดอักเสบหรือปอดบวมในเด็ก (Childhood pneumonia) | รพ.วิภาวดี (Vibhavadi Hospital)
ให้ oxygen 2. ให้ยาปฏิชีวนะ 3. ให้น้ำเกลือ โรคแทรกซ้อนที่สำคญ 1. น้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด (pleural effusion) เกิดจากการอักเสบของเนื้อปอดลามออกมาถึงเยื่อหุ้มปอด จำนวนน้ำมีได้ตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงขนาดมาก ถ้ามีไม่มากก็อาจหายเองได้ ในรายที่มีจำนวนมากจนทำให้เกิดอาการหอบจะต้องทำการรักษาโดยการเจาะดูดเอาน้ำออก 2. หนองในช่องเยื่อหุ้มปอด (empyema)ภาพถ่ายรังสีเหมือนกับน้ำในช่องหุ้มปอดแต่จะมีไข้สูงและหอบเหนื่อย 3. ปอดแตกและมีลมในช่องปอด (pneumothorax)มักเกิดจากการติดเชื้อที่รุนแรง ผู้ป่วยจะแน่นหน้าอกและหายใจหอบเหนื่อย 4. เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ( pericarditis) เยื่อหุ้มสมองอักเสบ( meningitis)ปัจจุบันพบน้อย 5. หัวใจวาย มักพบในรายที่มีโรคหัวใจอยู่ก่อน การป้องกันโรคปอดบวม 1. ใช้วัคซีนสามารถป้องกันปอดบวมได้บางเชื้อ เช่น fluenza, Pertussisไอกรน, ปอดบวม Pneumococcal 2. ให้หลีกเลี่ยงจากคนที่เป็นปอดบวม 3. หากมีสมาชิกในครอบครัวเป็นหอบหืดให้แยกถ้วย และชาม สมาชิกในครอบครัวให้ล้างมือบ่อยๆ ปอดบวมจากเชื้อชนิดต่างๆ coplasma pneumonae 2. Pneumocystis carinii 3. Pneumococcal pneumonia aphylococcus 5. Hemophelus influenza 6.
โรคปอดบวม (Pneumonia) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อเฉียบพลันอย่างรุนแรงของระบบทางเดินหายใจ ทำให้เยื่อบุถุงลมเกิดการอักเสบ บวม และมีน้ำคัดหลั่งมากจนเกิดอุดกั้นทางเดินหายใจทำให้เกิดภาวะขาดออกซิเจน และระบบหายใจล้มเหลวได้ มักเกิดในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี กว่าร้อยละ 45-50
ชนิดโรคปอดบวม
1. ปอดบวมเฉพาะกลีบ (Lobar pneumonia) เป็นการอักเสบบริเวณเนื้อปอดส่วนหนึ่งหรือทั้งกลีบหรือเกิดขึ้นพร้อมกันของทั้งปอดทั้งสองข้าง
2. ปอดบวมบริเวณหลอดลม (Bronchopneumonia) เป็นการอักเสบบริเวณหลอดลมฝอยที่กระจายเป็นจุดๆ รอบหลอดลมในปอด
3. ปอดบวมในผนังถุงลม (Interstitial pneumonia) เป็นการอักเสบบริเวณผนังถุงลมรอบๆ หลอดลม และเนื้อปอด
สาเหตุ
1. เชื้อไวรัส
โรคปอดบวมที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสพบมากว่าร้อยละ 42 เชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรค ได้แก่ เรสไปราทอรี ซินไซเทียไวรัส (respiratory syncytial virus) พาราอินฟลูเอนซา(parainfluenZa) อินฟลูเอนซา (influenZa) และอะดีโนไวรัส (adenovirus) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรสไปราทอรี และซินไซเทียไวรัส มักเกิดมากในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี สูงถึงร้อยละ 90
2. เชื้อแบคทีเรีย
การติดเชื้อแบคทีเรียเป็นสาเหตุของโรคปอมบวมมากที่สุดที่ร้อยละ 60 โดยเฉพาะในเด็กอายุน้อยกว่า 3 เดือน ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อเสตรปโตคอคคัส นิวโมนิเอ และเชื้อเอนเทอริคแบซิไล (enteric bacilli) ส่วนเด็กอายุ 3 เดือนถึง 5 ปี ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อเสตรปโตคอคคัส นิวโมนิเอ และฮีโมฟิลุส อินฟลูเอนซา (haemophilus influenza)
3.
โรคปอดบวม (Pneumonia) | thaihealthlife.com รวมสาระสุขภาพกาย และจิต
• การเลี้ยงดูเด็กให้มีสุขภาพแข็งแรงและสร้างสุขอนามัยที่ดี ด้วยการล้างมือเป็นประจำจะช่วยลดการติดเชื้อที่สัมผัสติดมากับมือได้ หรือใส่หน้ากากอนามัย
• ควรเลี่ยงการพาเด็กเล็กไปในที่ชุมชนและสถานที่แออัดเป็นเวลานานๆ
• หากบุตรหลานของท่านมีอาการไข้ ไอ หอบ ควรรีบพามาพบแพทย์โดยเร็วเพื่อจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
• ปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาเสริมภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนสำหรับป้องกันโรคปอดบวม (Hib vaccine, Pneumococcal vaccine) รวมทั้งวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza vaccine)
เรียบเรียงโดย พญ. ปราณี สิตะโปสะ
กุมารแพทย์โรคติดเชื้อ ประจำโรงพยาบาลวิภาวดี
โรคปอดบวม pneumonia
- กิจกรรม ส่งเสริม การ พูด ภาษาใต้
- โรคปอดบวม (Pneumonia) | thaihealthlife.com รวมสาระสุขภาพกาย และจิต
- โรคปอดบวม pneumonia
- Squid game พากย์ ไทย เต็ม เรื่อง
ปี 2552 เป็นปีแรก ที่องค์การอนามัยโลก กำหนดให้ วัน2 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันปอดอักเสบโลก (World Pneumonia Day) ทำไมโรคปอดอักเสบ หรือปอดบวมในเด็ก จึงมีความสำคัญ ลองมาทำความเข้าใจ กับโรคนี้กันค่ะ
โรคปอดอักเสบหรือปอดบวมในเด็ก (Childhood pneumonia) คืออะไร?? · คือ การอักเสบ ติดเชื้อของเนื้อปอด รวมทั้งหลอดลมและถุงลม ทำให้ความสามารถในการทำงานของอวัยวะเหล่านี้ลดลง
• โรคปอดบวมเป็นโรคที่พบได้ทั่วไป เกิดได้กับคนทุกวัย เป็นโรคที่ทำให้เกิดความเจ็บป่วยที่รุนแรง บางครั้งอาจทำให้เกิดความพิการ หรือทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง และผู้ป่วยระยะสุดท้าย
• ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกพบว่า ในช่วงปี 2000 ทั่วโลกมีเด็กที่เป็นปอดอักเสบ ประมาณ 156 ล้านคน ผู้ป่วยมากกว่าร้อยละ 95 อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา ผู้ป่วยร้อยละ 8. 7 มีอาการรุนแรงต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โรคปอดอักเสบเป็นสาเหตุของการตายเป็นอันดับหนึ่งในเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี ในแต่ละปีจะมีเด็กทั่วโลกที่เสียชีวิตจากปอดอักเสบปีละ 2 ล้านคน (ผู้ป่วยเด็กเสียชีวิตจากปอดอักเสบ 1 คน ทุก 15 วินาที) ส่วนใหญ่อยู่ในทวีปแอฟริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ข้อมูลจาก WHO 2009)
• ในประเทศกำลังพัฒนา พบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบมากกว่าในประเทศที่พัฒนาแล้ว 12-15 เท่า
• สำหรับประเทศไทย พบว่า โรคปอดอักเสบเป็นโรคที่พบได้มากและยังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ เพราะอัตราป่วยและอัตราตายสูง ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ปี พ.
โรคปอดบวม - Phatjira47731
เมนูหลัก โรคปอดบวม
โรคปอดบวม
โรคปอดบวมหมายถึงภาวะปอดซึ่งเกิดการอักเสบ ซึ่งอาจเป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส ซึ่งในสภาวะที่ผิดปกติอาจจะเกิดจาก เชื้อรา และ พยาธิ เมื่อเป็นปอดบวม จะมีหนอง และสารน้ำอย่างอื่นในถุงลม ทำให้ร่างกายไม่สามารถรับ oxygen ทำให้ร่างกายขาด oxygen และอาจถึงแก่ชีวิตได้ สาเหตุมีดังนี้ cteria ruses coplasma 4. เชื้อชนิดอื่น เช่น เชื้อรา 5. สารเคมี เชื้อที่เป็นสาเหตุมักจะอยู่ในน้ำลายและเสมหะของผู้ป่วยและสามารถแพร่กระจายออกมาเวลาไอ จาม นอกจากนี้ยังเกิดจากการดมสารเคมี เช่น แอมโมเนีย ไนโตรเจน ไดออกไซด์ หรือการสำลักน้ำลายเศษอาหารและน้ำย่อย เหตุชักนำสำคัญที่ทำให้เกิดปอดบวม ปกติเชื้อโรคอยู่ในคอ เมื่อร่างกายมีภาวะที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอก็จะเกิดโรค ภาวะต่างๆดังกล่าวได้แก่ 1. ร่างกายมีภูมิต้านทานต่อการอักเสบติดเชื้อลดลง เช่นอายุมาก ขาดอาหาร เบาหวาน ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน 2. การอักเสบติดเชื้อไวรัสของระบบการหายใจ 3. การอุดกั้น และการอักเสบเรื้อรังในหลอดลม 4. การสำลัก น้ำลาย เศษอาหาร หรือสิ่งติดเชื้อในปอด การติดต่อ ติดต่อโดยการได้รับเชื้อจากการไอ หรือจามของผู้ป่วย บางรายอาจได้จากการกินน้ำแก้วเดียวกันหรือใช้ผ้าเช็ดหน้าร่วมกัน หลังจากได้รับเชื้ออาจจะเกิดอาการใน 1-3 วัน อาการของโรคปอดบวม 1.
ล้างมือให้สะอาด หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ที่มีความเข้มข้นไม่ต่ำกว่า 60%
2. สวมหน้ากากอนามัย
3. หลีกเลี่ยงชุมชนแออัด
4. ฉีดวัคซีนป้องกัน เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคปอดบวม
วัคซีนป้องกันโรคปอดบวมจากเชื้อนิวโมคอคคัส
ในปัจจุบันมี 2
ชนิด เราฉีดวัคซีนเพื่อลดความรุนแรง
และภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้น เช่นการติดเชื้อในกระแสเลือด
1. วัคซีนนิวโมคอคคัสแบบคอนจูเกต
(PCV13) ซึ่งครอบคลุมเชื้อนิวโมคอคคัส 13 สายพันธุ์
2. วัคซีนนิวโมคอคคัสแบบโพลีแซคคาไรด์ (PPSV23)
ซึ่งครอบคลุมเชื้อนิวโมคอคคัส 23 สายพันธุ์
การเสริมภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เสมือนการสร้างเกราะป้องกันให้กับร่างกาย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันในบุคคลที่มีความเสี่ยงทุกคน
- Lancome genifique 100ml ราคา eye cream
- แคร่ ไม้ไผ่ โคราช เมืองที่คุณสร้างได้
- ใบเบิกเงินล่วงหน้า word
- ดู พี ๆ ทีวี 32 นิ้ว
- ความ เชื่อ อินโดนีเซีย ถ่ายทอดสด
- 5g ย่อมาจาก
- การพูดอภิปราย ตัวอย่าง
- Charles & keith สาขา ไหน ของ เยอะ
- พระบรม ม โกศ
- ราคา windows 10 home fpp suite
- เครื่อง สกัด เย็น electrolux
- Advil liquid gel ราคา
- เกม h game
- Pena house ลด ราคา map