ผักบุ้งนา นอกจากจะใช้ในการประกอบอาหารแล้ว ผักบุ้งนายังมีสรรพคุณช่วยลดอาการปวดฟันด้วยค่ะ เพียงแค่นำรากสดของผักบุ้งนาประมาณ 10 กรัม ตำให้ละเอียดแล้วคั้นเอาแต่น้ำ ผสมกับน้ำส้มสายชู อมไว้ประมาณ 5 นาที แล้วบ้วนออกด้วยน้ำสะอาด
6. มะระ สูตรนี้นิยมกันมาตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณแล้วค่ะ วิธีทำก็เพียงแค่นำรากสดของต้นมะระมาตำพอแหลก จากนั้นก็นำไปพอกบริเวณฟันซี่ที่ปวด โดยใช้ลิ้นกดไว้สักครู่ใหญ่ๆ จากนั้นอาการปวดฟันก็จะค่อยๆหายไป
7. ใบชา ใบชามีคุณสมบัติที่ไม่ควรมองข้ามนั่นก็คือช่วยลดการอักเสบและลดอาการเหงือกบวม จึงเหมาะจะนำมาใช้บรรเทาอาการปวดฟันอย่างยิ่ง เพียงนำใบชาแห้งไปแช่ในน้ำร้อนประมาณ 20 นาที แล้วรอจนกว่าน้ำชาจะเริ่มอุ่น จากนั้นนำมาบ้วนปากบ่อย ๆ จะช่วยให้ปวดฟันลดน้อยลง แต่อย่าลืมบ้วนน้ำสะอาดตามนะ เพราะน้ำชาอาจทำให้เกิดคราบหินปูนได้
8. ข่า + เกลือป่น อีกหนึ่งวิธีแก้ปวดฟันที่ได้รับความนิยมมากเช่นกันค่ะ วิธีทำก็ง่ายๆค่ะ เพียงแค่นำข่าสดที่กำลังแก่จัดมาตำให้ละเอียด จากนั้นใส่เกลือป่นลงไปเล็กน้อย เมื่อได้แล้วก็นำไปอุดฟันซี่ที่ผุ หรือเป็นรู หรือนำไปพอกบริเวณฟันที่ปวด ก็จะช่วยให้อาการปวดค่อยๆดีขึ้น
9. น้ำมันกระเทียม อีกหนึ่งสูตรแก้ปวดฟันที่สามารถทำได้ง่ายๆค่ะ เพียงแค่ใช้สำลีชุบน้ำมันกระเทียม แล้วนำมาทาบริเวณที่ปวดฟัน น้ำมันกระเทียมจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดีเลยทีเดียว
10.
เบทโฮเฟิน
- แจกสูตร สมุนไพร แก้ปวดฟัน ฟันผุ | Health Product
- เลิกทนทรมาน จบปัญหาปวดฟันด้วย 10 สมุนไพรจากธรรมชาติ
- ทำเนียบ แชมป์ ยู ฟ่า
- การรักษารากฟัน | ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
บ. ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล รามาธิบดี, มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้นิพนธ์ มณีรัตน์ ยิ่งธโนทัย ท. แผนกทันตกรรม
ประคบร้อนบริเวณซีกแก้มที่เกิดอาการปวดฟันด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น หรือจะเป็นกระเป๋าน้ำร้อนที่ใส่น้ำอุ่นจัดก็แล้วแต่สะดวก
2. ผสมเกลือป่น 1 ช้อนชากับน้ำต้มสุก 1 แก้วกาแฟ คนจนเกลือละลายแล้วนำมาบ้วนปากนาน 30 วินาที เกลือจะช่วยลดอาการเหงือกบวมและลดการอักเสบได้
3. แช่ใบชาดำหรือชาเปปเปอร์มินต์กับน้ำร้อนนาน 20 นาที จากนั้นรอจนน้ำชาอุ่น ๆ แล้วนำมาบ้วนปากสักพัก ใบชาเหล่านี้จะมีสรรพคุณลดอาการอักเสบและช่วยลดอาการเหงือกบวมจากฟันผุได้
4. บ้วนปากด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่มีความเข้มข้น 3% สักพัก ให้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุของอาการฟันผุ
5. หากอาการปวดฟันมีลักษณะปวดตุบ ๆ ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อ ให้ประคบซีกแก้มที่เกิดอาการปวดฟันด้วยน้ำแข็งประมาณ 5-10 นาที ทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง ความเย็นจะช่วยลดอาการปวดและลดบวมลง
6. นวดกดจุดบรรเทาอาการปวดฟัน ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ชั่วคราว โดยมีวิธีดังนี้
- นวดคลึงเบา ๆ ที่แก้มบริเวณเหนือฟันที่ปวด จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ชั่วคราว
- ใช้น้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ กดและถู หรือหรือใช้มืออีกข้างนวดบริเวณง่ามมือระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ จะทำให้อาการปวดฟันทุเลาลง
- สำหรับคนที่ปวดบริเวณกรามล่าง ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือนวดบริเวณกระดูกขากรรไกรที่รองรับฟันล่าง ส่วนคนที่ปวดบริเวณกรามบนให้วางนิ้วหัวแม่มือ ตรงบริเวณส่วนกลางของหู แล้วลากนิ้วไปทางด้านหน้า จนกระทั่งถึงรอยบุ๋มใต้กระดูกประมาณหนึ่งนิ้วบริเวณหน้าใบหู จากนั้นกดแรง ๆ ประมาณ 10 นาที
7.
เลิกทนทรมาน จบปัญหาปวดฟันด้วย 10 สมุนไพรจากธรรมชาติ
การรักษารากฟัน Q โครงสร้างของฟันคนเราประกอบด้วยอะไรบ้าง A ฟันคนเราประกอบด้วย 3 ชั้น เรียงตามลำดับ ดังนี้ 1. ชั้นเคลือบฟัน เป็นชั้นที่มีความแข็งแรงที่สุดและนอกสุด การเกิดฟันผุในระดับนี้ ผู้ป่วยจะไม่มีอาการ และอาจสังเกตเห็นเองได้ โดยพบมีจุดหรือร่องสีดำบนผิวฟัน หรือสามารถตรวจพบโดยทันตแพทย์. 2. ชั้นเนื้อฟัน เป็นส่วนที่มีความแข็งรองลงมาจากชั้นเคลือบฟัน ซึ่งถ้ามีฟันผุถึงในระดับนี้ ผู้ป่วยจะมีอาการเสียวเวลาดื่มน้ำเย็นหรือกินอาหาร หรือในบางคนอาจไม่มีอาการใดๆ แต่มักจะมีเศษอาหารเข้าไปติดบริเวณดังกล่าวบ่อยๆ. ผู้ป่วยอาจสังเกตเห็นได้โดยมีรูหรือร่องอยู่บนฟัน ผู้ป่วยที่มีฟันผุในระยะนี้จะไม่มีอาการปวดฟันในเวลากลางคืน หรือปวดขึ้นมาเองโดยไม่มีสิ่งกระตุ้น (spontaneous pain) แต่มักจะเป็นการปวดเมื่อมีสิ่งกระตุ้น เช่น กินอาหารแล้วมีเศษอาหารติดจึงปวด และมักจะปวดไม่นานอาจแค่ชั่วขณะหลังกินอาหาร. 3. ชั้นโพรงประสาทฟัน เป็นเนื้อเยื่อที่อยู่ภายใน ถูกห่อหุ้มด้วยชั้นเคลือบฟันและชั้นเนื้อฟัน ซึ่งถ้าฟันผุถึงในระดับนี้ จะมีการติดเชื้อในโพรงประสาทฟันทำให้มีอาการปวด มักมีอาการปวดมากหรือปวดตลอดเวลาโดยไม่ต้องมีสิ่งกระตุ้น เสียวฟันเมื่อดื่มน้ำร้อน-เย็น ซึ่งการรักษาเมื่อมีฟันผุถึงในระดับนี้มีเพียง 2 ทางคือ การรักษารากฟัน และถอนฟัน.
การแปรงฟันให้ถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการรับประทานอาหารและขนมขบเคี้ยว
2. ควรใช้ไหมขัดฟัน (Dental floss silk) ขัดฟันวันละครั้ง
3. รับประทานอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล (คาร์โบไฮเดรต) ให้น้อยลง เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ผสมน้ำตาล
4. ควรไปพบทันตแพทย์อย่างน้อยเป็นประจำทุก 6 เดือนเพื่อตรวจสุขภาพและทำความสะอาดฟัน
5. พยายามรับประทานอาหารเฉพาะมื้อหลักแทนการรับประทานอาหารว่างบ่อย ๆ
ปัญหาสุขภาพของคนเรา นอกจากอาการปวดหัว ปวดท้องแล้ว เชื่อไหมว่าอาการปวดฟันนั้นก็เป็นอาการปวดสุดแสนจะทรมานระดับชาติไม่น้อยทีเดียวและสำหรับใครที่มักมีปัญหาปวดฟันบ่อย หากคุณไม่อยากเอาแต่พึ่งพายาแก้ปวดทุกครั้งไป เราขอแนะนำให้รักษาอาการปวดฟันด้วยสมุนไพรเหล่านี้ดูบ้าง รับรองจะช่วยบรรเทาอาการปวดให้ลดน้อยลงได้อย่างแน่นอน
4 สมุนไพรรักษาอาการปวดฟัน ระงับความทรมานด้วยวิธีธรรมชาติ
ขอบคุณภาพประกอบจาก
1. เมล็ดผักชี
ใครที่เวลาปวดฟันบ่อยมักใช้น้ำเกลือบ้วนปาก แต่หากบ้วนน้ำเกลือบ่อยครั้งอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองภายในผิวช่องปากได้ และอาจทำให้ร่างกายพลอยได้รับโซเดียมในปริมาณมากเกินไปอีกด้วย แนะนำให้ลองใช้เมล็ดผักชีต้มน้ำแล้วปล่อยให้อุ่นจากนั้นนำมาบ้วนปากบ่อยๆ รับรองค่ะว่าสรรพคุณจากเมล็ดผักชีก็จะช่วย บรรเทาอาการปวดฟัน ได้ดีเช่นกัน
2.
เดอ เบก
Q การรักษารากฟัน คืออะไร A คือ การกำจัดเนื้อเยื่อประสาทฟันที่ติดเชื้อ และทำความสะอาดภายในคลองรากฟันด้วยเครื่องมือขยายคลองรากฟัน ร่วมกับน้ำยาล้างคลองรากฟัน รวมทั้งการใส่ยาฆ่าเชื้อภายในฟัน. Q ความแตกต่างของการรักษารากฟัน และการถอนฟัน A การรักษารากฟัน และการถอนฟัน ล้วนเป็นวิธีที่ทำให้ผู้ป่วยหายปวดจากการมีโพรงประสาทฟันอักเสบติดเชื้อได้ทั้งสิ้น แต่การรักษารากฟันทำให้ผู้ป่วยสามารถเก็บฟันซี่นั้นๆ ไว้ได้. ส่วนการถอนฟัน จะทำให้เกิดปัญหาตามมาคือ การต้องทำฟันปลอมเพื่อทดแทนฟันที่ถูกถอนออกไป เป็นต้น. แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับสภาวะทางเศรษฐกิจของผู้ป่วยด้วย เนื่องจากการรักษารากฟันนั้นจะมีค่าใช้จ่ายที่มากกว่า การถอนฟันปกติ. Q ทำไมหลังจากการรักษารากฟันแล้ว ฟันมักจะแตกง่าย และไม่สามารถเคี้ยวอาหารที่มีความแข็งและเหนียวได้เหมือนฟันปกติ A ฟันที่รักษารากฟันแล้ว จะมีความแข็งแรงลดลงจากฟันปกติที่ไม่เคยได้รับการรักษารากฟันประมาณครึ่งหนึ่ง ดังนั้นในผู้ป่วยทุกคนที่ได้รับการรักษารากฟัน ควรจะได้รับการครอบฟันภายหลังจากการรักษารากฟัน เพื่อป้องกันการเกิดฟันแตกในภายหลัง ซึ่งจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันต้องถูกถอน ไปในที่สุด. Q ข้อควรทราบและระวังในระหว่างการรักษารากฟัน มีอะไรบ้าง A ในครั้งแรกของการรักษารากฟัน ทันตแพทย์จะทำการดึงประสาทฟันที่อักเสบออก ดังนั้นผู้ป่วยอาจมีอาการปวดภายหลังการรักษา 2-3 วันแรก แต่ถ้ามีอาการบวมให้รีบกลับมาพบทันตแพทย์ทันที.
อาการปวดฟัน ฟันผุ โรคในช่องปากที่พบได้บ่อย และสร้างความรำคาญใจให้กับผู้ที่เป็นอยู่ไม่น้อย โรคฟันผุ สามารถเกิดได้จากหลายๆสาเหตุ แต่หลักๆแล้วเกิดจากการกระทำของแบคทีเรีย และอื่นๆ เช่น แบคทีเรียจากคราบพลัค น้ำตาลในอาหาร กรดในช่องปาก และผิวหน้าฟันบอบบาง สำหรับคนที่กำลังมองหาวิธีลดอาการปวดฟันอันมีสาเหตุมาจากฟันผุ เบ็ดเตล็ดไอเดียขอแนะนำวิธีทำให้หายปวดฟันแบบง่ายๆ ด้วย 10 สูตรแก้ปวดฟันด้วยวิธีธรรมชาติ รวมไปถึงวิธีรักษาฟันผุด้วยตัวเองดังต่อไปนี้ค่ะ การป้องกันฟันผุ 1. แปรงฟันอย่างน้อยวันละสองครั้ง และใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำเพื่อกำจัดคราบพลัคบริเวณร่องฟันแต่ละซี่ และบริเวณใต้รอยต่อระหว่างเหงือกและฟัน 2. หมั่นไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันอย่างส่ำเสมอ 3. รับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ และพยายามลดอาหารที่มีส่วนผสมของแป้งและน้ำตาล 4. ใช้ผลิตภัณฑ์ทางทันตกรรมที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เช่น ยาสีฟันผสมสารฟลูออไรด์ เป็นต้น ปวดฟันทำไงดีนะ? สูตรที่ 1 น้ำมันกานพลู การลดอาการปวดฟันด้วยน้ำมันกานพลูนั้นได้รับความนิยมมานานแล้ว วิธีใช้ก็ง่ายมากๆ เพียงแค่ใช้สำลีชุบน้ำมันกานพลู แล้วอุดลงไปในรูที่ผุ ฤทธิ์ของน้ำมันกานพลูจะออกฤทธิ์เป็นยาแก้ปวดฟันที่ดีมากๆเลยค่ะ สูตรที่ 2 น้ำเกลืออุ่นๆ การอมบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่นๆช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้เหมือนกันค่ะ เพียงแค่นำเกลือแกงจำนวน 1/2 ช้อนชา ไปกับน้ำอุ่นประมาณครึ่งแก้ว ให้นำมาใช้บ้วนปากทุกๆ 1 ชม.
ใบชา
ใบชามีคุณสมบัติที่ไม่ควรมองข้ามนั่นก็คือช่วยลดการอักเสบและลดอาการเหงือกบวม จึงเหมาะจะนำมาใช้บรรเทาอาการปวดฟันอย่างยิ่ง เพียงนำใบชาแห้งไปแช่ในน้ำร้อนประมาณ 20 นาที แล้วรอจนกว่าน้ำชาจะเริ่มอุ่น จากนั้นนำมาบ้วนปากบ่อย ๆ จะช่วยให้ปวดฟันลดน้อยลง แต่อย่าลืมบ้วนน้ำสะอาดตาม เพราะน้ำชาอาจทำให้เกิดคราบหินปูนได้
9. เมล็ดกุยช่าย
พืชผักที่เราคุ้นเคยกันดีอย่างกุยช่าย ซึ่งต้องขอบอกว่าเมล็ดที่มาจากต้นกุยช่ายสามารถบรรเทาอาการปวดฟันจากฟันผุได้ โดยในแพทย์แผนจีนจะนำเมล็ดกุยช่ายมาคั่วให้เกรียมดำ แล้วนำมาทุบให้แหลก นำไปละลายในน้ำมันยาง นำสำลีชุบน้ำมันยางที่ผสมกับเมล็ดกุยช่ายบดมาอุดบริเวณที่ปวดฟันจากฟันผุ ทิ้งไว้ข้ามคืนก็จะบรรเทาอาการปวดฟันและช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของฟันผุได้
10. ข่อย
ใช้กิ่งสดของข่อยมาหั่นและต้มในน้ำเกลือ เคี่ยวให้งวดจนเหลือน้ำครึ่งเดียว และใช้น้ำต้มข่อยบ้วนปากเช้า-เย็น ข่อยจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก ลดอาการปวดฟันได้อีกทาง
วิธีป้องกันอาการปวดฟัน
การดูแลสุขภาพช่องปากและฟันที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันการปวดฟัน ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้ฟันผุ (สาเหตุส่วนใหญ่ของการปวดฟัน) คือ
1.